วันพฤหัสบดี, 10 ตุลาคม 2567

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว

วัดสวย เรืองแสง วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี อัศจรรย์แห่งแรงศรัทธา

   อุบลราชธานี จังหวัดใหญ่น่าเที่ยวแห่งอีสานใต้ค่ะ บอกเลยว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในหลากสไตล์ทั้งเที่ยวในเมือง หรือจะเที่ยวธรรมชาติ ที่นี่ก็มีครบ ! แต่สำหรับวันนี้เราจะพาสายบุญไปสักการะวัดสวย วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า วัดเรืองแสง จะงดงามขนาดไหน ตามเรามาดูได้เลยค่ารู้จัก วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว

      วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดภูพร้าว อีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันก็คือ วัดเรืองแสง ค่ะ วัดนี้จะตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บนยอดเขาเราจะสามารถมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทอง ตั้งเด่นงดงามอยู่ค่ะ ด้านหลังของอุโบสถจะเป็นงานจิตรกรรมเรืองแสงสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์ อยู่ด้านหลังของอุโบสถในเวลากลางคืน สวยงามมากจริงๆ ค่ะ ซึ่งบางเวลาถ้าไปแล้วโชคดีได้เจอกับดาวเรืองแสงรอบๆ อุโบสถ และขอแนะนำให้ไปในคืนเดือนมืดค่ะ เพราะถ้ายิ่งมืดเราก็จะสามารถเห็นการเรืองแสงของต้นกัลปพฤกและดวงดาวได้ชัดเจนมากขึ้น

ภาพเรืองแสงนี้ถ้าเรามองด้วยตาเปล่า อาจจะรู้สึกเพียงเล็กน้อยค่ะ จะไม่ค่อยเห็นเป็นสีเขียวชัดเจนเท่ากับภาพที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการเก็บภาพความสวยงามไว้แค่สายตา อาจจะต้องเผื่อใจนิดนึงนะคะ    และนอกจากความมหัศจรรย์ของพระอุโบสถแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วยค่ะ ซึ่งเป็นวิวของแม่น้ำโขง และบริเวณด้านหลังพระอุโบสถจะเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาว และมองเห็นด่านสากลช่องเม็กได้อย่างสวยงาม จริงๆ รวมถึงอ่างเก็บน้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขา ที่มีลักษณะคล้ายกับทะเลสาปค่ะ โดยเฉพาะในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดิน เราจะเริ่มเห็นพระอาทิตย์ดวงโต ซึ่งต้องบอกว่าเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจมากค่ะ

 สำหรับต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ ซึ่งเป็นผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเองเลยทีเดียวค่ะ ท่านได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร โดยใช้สารเรืองแสง หรือ สารฟลูออเรสเซนต์รอบๆ ต้น ซึ่งคุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน และพอดีกับที่งานชิ้นนี้ได้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หรือหันข้างไปทางทิศตะวันตก ก็เลยคล้ายกับเป็นฉากกั้น พลังงาน ในช่วงเวลาตอนกลางวัน แล้วสามารถฉายแสงออกมาในตอนกลางคืน เป็นการคายพลังงานออกมาค่ะ       วัดแห่งนี้ท่านพระอาจารย์บุญมากเป็นผู้ริเริ่มค่ะ ท่านเป็นคนฝั่งลาวจำปาสัก ได้เข้ามาเผยแพร่อบรมสมาธิทางฝั่งไทย และได้ปักกลดที่ภูพร้าวในปี 2497-2498 ซึ่งท่านได้กลับไปยังประเทศลาว จนกระทั่งปี 2542 พระครูกมล ลูกศิษย์ของท่านได้ค้นพบวัดอีกครั้งและบูรณะให้กลับมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมได้อย่างเดิม หลังจากพระครูกมลละสังขารไปในปี 2549 พระครูปัญญาก็เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและสานต่องานสร้างวัดต่อไปจนถึงปัจจุบัน

พิกัด : https://goo.gl/maps/AYDaaohpXZisbeJV7

ที่อยู่ : ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี

เวลาเปิด : 6:00–21:00

083-681-9884