
12 พิกัดที่เที่ยว แหล่งวัฒนธรรมโบราณ จังหวัดอุบลราชธานี
มีที่ไหนบ้างมาชมกัน หากตกหล่นที่ไหนขออภัยสามารถคอมเม้นต์ข้อมูลเพิ่มเติมกันเข้ามาได้เลย

ภูปราสาท ต.สีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
อยูบนเทือกเขาพนมดงรักทางเดียวกับไปช่องอานม้า ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เป็นปราสาทอิฐ 2 หลังกลางป่า
มีทางเดินจากที่จอดรถจนถึงปราสาทเส้นทางขึ้นช่องอานม้า

ปราสาททองหลาง จากลักษณะแผนผังและรูปแบบสถาปัตยกรรม สันนิษฐานได้ว่า มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เทียบได้กับศิลปะเขมรแบบปาปวน (พ.ศ.1550-1620) ร่วมสมัยกับปราสาทบ้านเบ็ญจ์ ปราสาทแห่งนี้แสดงถึงอิทธิพลอาณาจักรขอมในด้านการเมืองการปกครองและศาสนาที่พบในบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติโดยประกาศในราชกิจานุเบกษา เล่มที่ 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479 และกำหนดเขตที่ดิน โบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 ตอรที่ 155 วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2525 พื้นที่ประมาณ 6 ไร่ 3 งาน 2 ตารางวา
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจะผลัดเปลี่ยนเวรกันมาทำความสะอาดทุกวันที่ 15 ของเดือน เพื่อให้โบราณสถานแห่งนี้คงเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสวยงามและน่าเข้าชม
พิกัด https://maps.app.goo.gl/rt1pW5ZV5JCQMhDM6
ปราสาททองหลาง ตำบลท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี

ปราสาทบ้านเบญจ์ อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ปราสาทหินก่ออิฐ ศิลปะเขมรโบราณ มีการพบทับหลังรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และภาพจำหลักเทพนพเคราะห์ กำหนดอายุในราวต้นพุทธศตวรรษที่ 16 ปราสาทบ้านเบ็ญจ์ เป็นศาสนาสถานในศาสนาพราหมณ์แบบประกอบด้วยประสาทที่มีลักษณะก่อด้วยอิฐ 3 หลัง ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกันในแนวทิศเหนือ-ใต้ ตัวประสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีกำแพงศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบ มีซุ้มประตูทางเข้าหรือโคปุระทางด้านหน้าด้านเดียว นอกกำแพงด้านทิศตะวันออกมีฐานอาคารจตุรมุขตั้งอยู่ มีคูน้ำล้อมรอบกำแพงศิลาแลง ได้ค้นพบทับหลังที่จำหลักลวดลายเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และภาพจำหลักเทพนพเคราะห์ กำหนดอายุในราวต้นพุทธศตวรรษที่ 16

ผาแต้ม เป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ ชมวิวแม่น้ำโขง และข้ามฟากเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใบสีเขียวของประเทศลาว ในบริเวณที่เป็นหน้าผาจะปรากฏ #ภาพเขียนสีโบราณ โดยฝีมือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
#เสาเฉลียงยักษ์ เป็นหินทรายยุคจูแรสซิก เกิดจากน้ำและกรวดที่ลมพัดพามากัดเซาะต่อเนื่องเป็นเวลาหลายล้านปี หินที่มีความคงทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่า จะคงเหลืออยู่ มากกว่า ปรากฏเป็น เสาเฉลียง หรือ เสาหิน กระจายกันอยู่ทั่วบริเวณในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
#ลานหินแตก เป็นส่วนหนึ่งของอุทยาแห่งชาติผาแต้ม อยู่ถัดจากเสาเฉลียง
ขึ้นไปทางเนินเขา ลานหินแตกมีลักษณะของแผ่นหินที่เป็นแนวเป็นร่องเหมือน
แผ่นหินแยกออกจากกัน เกิดขึ้นตามธรรมชาติสืบเนื่องจากกระบวนการกัดเซาะ
และกัดกร่อนด้วยอิทธิพลของน้ำลำธารน้ำไหล และลม เนิ่นนานหลายพันปี

ภาพเขียนสีโบราณรูปฝ่ามือที่โหง่นแต้ม
“โหง่นแต้ม” เป็นเพิงหินที่มีรอยฝ่ามือแดง ซึ่งเป็นภาพเขียนสีโบราณก่อนประวัติศาสตร์ยุคเดียวกับที่ผาแต้ม
พิกัด ทางไปเสาเฉลียงคู่ ณ ผาชะนะได อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

วัดราษฎร์ประดิษฐ์ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิลาย ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมศิลปะแบบช่างญวนและพื้นถิ่นอีสาน ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน วัดนี้เป็นวัดที่ชาวบ้านกระเดียนร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างขึ้นโดยใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น อิฐที่เผาจากดินดิบในหมู่บ้าน

วัดชัยภูมิการาม หรือ วัดกลาง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี วัดเก่าแก่ที่ภายในวัดมีอุโบสถสิมแบบมหาอุตที่มีบันไดนาคสวยงามแปลกตาเป็นที่ประดิษฐานของพระสิทธิมงคล พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ศิลปะล้านช้าง และชมภาพเขียนสีจิตรกรรมฝาผนังแบบอีสาน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี พิพิธภัณฑ์ประจำ

วัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ในอดีตเป็นวัดที่สอนวิชาการช่างต่าง ๆ ให้แก่ชาวเมืองอุบลราชธานีโดยมีญาท่านพระครูดีโลด บุญรอด (พระครูวิโรจน์รัตโนบล) เป็นผู้นำการสอน ภายในวัดมีศาสนาคารที่สำคัญ ได้แก่ หอไตรกลางน้ำ หอเก็บคัมภีร์ใบลานและพระไตรปิฎกที่เป็นงานสถาปัตยกรรมร่วมระหว่างไทย พม่า และลาว หอพระพุทธบาทที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระเจ้าใหญ่องค์เงิน เป็นงานสถาปัตยกรรมผสมระหว่างพื้นถิ่นอีสานและแบบไทยภาคกลาง ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงคุณค่าโดยฝีมือช่างพื้นเมืองอุบลที่ได้รับอิทธิพลจากช่างหลวงกรุงเทพฯ วิหารศรีเมือง และพระเจ้าใหญ่ศรีเมือง

พิพิธภัณฑ์เมืองเกษมสีมา วัดเกษมสำราญ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี แหล่งรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาวอีสาน เกิดจากทางวัดเกษมสำราญและชาวบ้าน นำโดย พระครูเกษมธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดเกษมสำราญ มีแนวความคิดในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้น เพื่อจัดเก็บหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเยาวชนและชุมชนเป็นการเชื่อมโยงระหว่างวัดกับชุมชนเข้าหากัน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชนอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดภูถ้ำพระศิลาทอง ก่อตั้งเนื่องจากการที่ชาวบ้านได้ขุดดินเพ่อทำศาลาและได้ขุดพบโบราณวัตถุและหลัฐานทางโบราณคดีต่าง ๆ ในปี 2550 ต่อมาจึงได้สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ในปี 2551 และได้นำโบราณวัตถุต่าง ๆ มาจัดแสดงไว้ภายในอาคาร อาทิ โครงกระดูกมนุษย์ที่สวมสร้อยคอลูกปัดแก้ว ลูกปัดขนาดเล็ก และกำไลสำริด เป็นต้น นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้ร่วมบริจาคข้าวของเครื่องใช้เก่าสมัยโบราณให้นำมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

วัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีธรรมมาสเก่าที่ตั้งอยู่ในศาลาการเปรียญหรือหอแจกแบบอีสาน ธรรมมาสมีลักษณะเป็นรูปสิงห์ยืนเทินปราสาท สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาทเป็นเครื่องไม้เป็นชั้นลดหลั่น บนตัวธรรมาสน์สิงห์ประดับประดาด้วยกระจกสีต่าง ๆ อย่างสวยงาม สร้างขึ้นโดยช่างชาวญวน พระอุปัชฌาวงศ์ พรหมฺสโร และนายคำหมา แสงงาม ปัจจุบันธรรมมาสสิงห์นี้ใช้เป็นที่สำหรับให้พระสงฆ์นั่งเทศน์มหาชาติในงานบุญเดือน 4 หรือบุญผะเหวด หรือบุญมหาชาติ